กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง เรื่องใกล้ตัวที่ทุกคนควรรู้

กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง เป็นสิ่งที่หลายคนอาจเคยได้กันมาบ้าง แต่ยังคงไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร โดยเฉพาะในฐานะลูกจ้าง หรือนายจ้างที่เพิ่งเริ่มต้นกิจการใหม่ ๆ ขอบอกเลยว่าเรื่องนี้ “สำคัญมาก” เพราะเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ลูกจ้างควรได้รับ และนายจ้างก็มีหน้าที่ตามกฎหมายที่ต้องปฏิบัติถูกจัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 มีเป้าหมายหลักคือ “ช่วยเหลือลูกจ้าง” ที่ไม่ได้รับเงินค่าจ้างหรือค่าชดเชยจากนายจ้างที่เลิกจ้างหรือล้มกิจการ และไม่มีความสามารถในการจ่ายเงินให้ลูกจ้างได้ หรือพูดง่ายๆ คือ กองทุนนี้ทำหน้าที่เป็นตัวช่วยให้ลูกจ้างในกรณีที่นายจ้างไม่สามารถจ่ายค่าชดเชยต่าง ๆ ได้ เช่น ค่าจ้างที่ค้าง ค่าชดเชยตามกฎหมาย หรือค่าชดเชยเพิ่มเติม

ฟ้าทอง แอคเคาน์ติ้ง จึงได้ทำการสรุป กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง คืออะไร ให้สามารถเข้าใจง่าย ๆ ใน 5 นาที

ใครที่มีสิทธิได้รับเงินจาก กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง?

  • ลูกจ้างในกิจการที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป
  • ลูกจ้างที่ทำงานกับนายจ้างมานานตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด
  • ลูกจ้างที่ ไม่ได้รับค่าจ้าง หรือค่าชดเชยจากนายจ้างที่เลิกกิจการหรือหลบหนี
  • ลูกจ้างที่ยื่นคำร้องภายใน 120 วัน นับจากวันที่ถูกเลิกจ้าง

 ขอบเขตการบังคับใช้: นายจ้างแบบไหนต้องเข้าร่วม?

  • นายจ้างที่มีลูกจ้าง ตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป มีหน้าที่ต้องส่งเงินสมทบเข้ากองทุน
  • เริ่มส่งเงินสมทบ ภายใน 30 วัน หลังมีลูกจ้างถึงจำนวนที่กำหนด
  • ถ้าไม่ส่งเงินสมทบ จะมี โทษปรับและดอกเบี้ย

เริ่มบังคับใช้เมื่อไร?

  • เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป กิจการที่มีลูกจ้าง 10 คนขึ้นไป (และไม่มีระบบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพหรือระบบคุ้มครองเทียบเท่า) จะต้องเข้าร่วมกองทุนทันที

การคำนวณเงินสมทบที่นายจ้างต้องส่ง

เงินที่นายจ้างต้องส่งเข้า กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง คำนวณจากค่าจ้างของลูกจ้างทั้งหมด คิดอัตรา 0.2% ของค่าจ้างรวม

🧮 ตัวอย่าง:

ถ้ามีลูกจ้าง 15 คน และจ่ายเงินเดือนรวม 150,000 บาทต่อเดือน

เงินสมทบต่อเดือน = 150,000 x 0.002 = 300 บาท

การคำนวณเงินที่ต้องส่งต่อปี ลูกจ้าง 15 คน แต่ละคนมีเงินเดือน 20,000 บาท

  1. ค่าจ้างรวมต่อเดือน = 15 × 20,000 = 300,000 บาท
  2. ค่าจ้างรวมต่อปี = 300,000 × 12 = 3,600,000 บาท
  3. เงินที่ต้องส่งเข้ากองทุน = 0.2% ของ 3,600,000 = 7,200 บาท/ปี

งินจำนวนนี้ไม่ได้หักจากลูกจ้าง แต่นายจ้างเป็นผู้จ่ายเองทั้งหมด

ขั้นตอนการขอรับเงินสงเคราะห์

  1. ลูกจ้างต้องไปแจ้งความที่สำนักงานแรงงานในพื้นที่
  2. กรอกแบบคำร้องพร้อมแนบเอกสาร เช่น สลิปเงินเดือน สัญญาจ้าง หนังสือเลิกจ้าง
  3. เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบ และพิจารณาจ่ายเงินจาก กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง ภายใน 60 วัน

เอกสารประกอบสำคัญ

  • สำเนาบัตรประชาชน
  • หนังสือรับรองการทำงาน
  • หลักฐานการถูกเลิกจ้าง
  • เอกสารแสดงยอดเงินที่นายจ้างยังค้าง

ลูกจ้างจะได้รับเงินเท่าไร?

ลูกจ้างจะได้รับเงินสงเคราะห์ตามระยะเวลาที่ทำงาน เช่น

ระยะเวลาทำงาน ได้รับเงินสงเคราะห์ (สูงสุด)
< 1 ปี ไม่เกิน 30 วันของค่าจ้าง
1-3 ปี ไม่เกิน 90 วัน
3-6 ปี ไม่เกิน 180 วัน
>10 ปี สูงสุด 300 วัน

 

เมื่อเข้าเงื่อนไขแล้ว ลูกจ้างสามารถยื่นคำร้องขอเงินช่วยเหลือจากกองทุนได้ โดยการจ่ายเงินจะไม่เกิน 180 วันของอัตราค่าจ้างรายวันของลูกจ้าง และมีเพดานจ่ายสูงสุดไม่เกิน 360 วันในกรณีค่าชดเชย

ตัวอย่างการคำนวณ

ลูกจ้างนายหนึ่งถูกเลิกจ้างโดยไม่จ่ายค่าชดเชย และเงินเดือนสุดท้ายคือ 18,000 บาท/เดือน
= 600 บาท/วัน (คิดจาก 30 วัน)

สิทธิที่จะได้รับ (สูงสุด)
600 x 180 = 108,000 บาท

แต่ถ้านายจ้างมีคำสั่งให้จ่ายมากกว่านี้ กองทุนจะจ่ายเท่าที่ระบุไว้ในคำสั่ง และไม่เกินเพดานตามกฎหมาย

เปรียบเทียบกับกองทุนอื่น ๆ ที่ลูกจ้างควรรู้

รายการ กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง กองทุนประกันสังคม กองทุนเงินทดแทน
ช่วยเหลือกรณีอะไร ไม่ได้รับค่าจ้าง/ชดเชย เจ็บป่วย/คลอด/ชรา บาดเจ็บจากงาน
ใครเป็นคนจ่ายเงินสมทบ นายจ้าง นายจ้าง-ลูกจ้าง-รัฐ นายจ้าง
ลูกจ้างมีส่วนร่วมไหม ไม่ต้องจ่าย จ่ายร่วม ไม่ต้องจ่าย
ได้รับเงินแบบไหน เป็นเงินสงเคราะห์ เบี้ยยังชีพ/ค่ารักษา ค่าทดแทน

 

สรุปกำหนดการเข้าร่วม กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง

ตารางสรุปกำหนดการเข้าร่วมกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างตามประเภทกิจการ ระบุช่วงเวลาการสมัคร แบบฟอร์มที่ใช้ และกำหนดเวลาการเริ่มส่งเงินเข้ากองทุน

ประเภทกิจการ สมัครเมื่อไร แบบฟอร์มที่ใช้ เริ่มส่งเงินเมื่อไร
บังคับ
(ลูกจ้าง ≥ 10 คน และยังไม่มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ)
ไม่ต้องสมัคร
(ระบบลงทะเบียนอัตโนมัติ)
สกล.3 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป
สมัครใจ
(ลูกจ้าง < 10 คน หรือเป็นมูลนิธิ / องค์กรพิเศษ)
ยื่นสมัครได้ทันที
ก่อนเริ่มเข้าร่วม
สกล.3/1 ภายในเดือนถัดไป
หลังได้รับการอนุมัติ

ทำไมนายจ้างต้องใส่ใจเรื่อง กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง ?

เพราะ…

  • เป็น ภาระผูกพันตามกฎหมาย
  • เป็นเครื่องมือ สร้างความเชื่อมั่น ให้พนักงาน
  • ถ้าไม่ส่งเงินสมทบ อาจโดน โทษปรับสูงสุดถึง 100,000 บาท

 

ให้ฟ้าทอง แอคเคาน์ติ้ง แอนด์ ออดิท จำกัด ช่วยคุณเรื่องนี้

หากคุณเป็นนายจ้างที่ไม่แน่ใจว่าจะเริ่มต้นยังไง หรือกลัวพลาดเรื่องเอกสารภาษีและประกันสังคม ทาง บริษัท ฟ้าทอง แอคเคาน์ติ้ง แอนด์ ออดิท จำกัด ยินดีให้คำปรึกษาแบบครบวงจร

บริการของเรา:

  • ให้คำแนะนำเรื่องการส่งเงินสมทบกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง
  • บริการยื่นแบบและจดทะเบียนประกันสังคม
  • ตรวจสอบสิทธิ์และขั้นตอนต่าง ๆ พร้อมยื่นเรื่องแทน
  • บริการบัญชีและภาษีครบวงจร

 

📞 ติดต่อเรา

บริษัท ฟ้าทอง แอคเคาน์ติ้ง แอนด์ ออดิท จำกัด
เว็บไซต์: https://fahthongacc.com/
ที่อยู่: 311/2 หมู่ที่ 6 ต.โสนลอย อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี 11110
โทร: 096-289-2997
LINE: @fahthongacc
Facebook: https://www.facebook.com/fahthongacc

 

แหล่งอ้างอิง:

  • กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน: www.labour.go.th
  • สำนักงานประกันสังคม: www.sso.go.th