ภาษีธุรกิจคลินิกสัตว์เลี้ยง เป็นธุรกิจอีกประเภทที่หลายคนยังมีความสงสัยเกี่ยวกับเรื่องภาษีเป็นอย่างมาก ดังนั้นเพื่อให้ทุกคนเกิดความเข้าใจตรงกันโดยเฉพาะใครที่วางแผนอยากทำธุรกิจในลักษณะนี้ มาศึกษาเรื่องภาษีที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียดเพื่อให้ทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคต
ภาษีธุรกิจคลินิกสัตว์เลี้ยง ที่เกี่ยวข้องมีดังนี้
ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
เป็นภาษีที่ผู้มีรายได้ต้องยื่นและจ่ายให้กับกรมสรรพากรตามกฎหมายเมื่อเข้าเกณฑ์การเสียภาษี ซึ่งต้องแยกก่อนว่าคุณเปิดธุรกิจนี้ในลักษณะใดก็จะไปสู่การมีเงินได้ตามมาตรา 40 ที่หักลดหย่อนแตกต่างกัน ดังนี้
- เจ้าของธุรกิจในรูปแบบบุคคลธรรมดา ถือเป็นเงินได้พึงประเมินมาตรา 40 (8) ใช้การหักค่าใช้จ่ายแบบเหมาไม่เกิน 60%
- เจ้าของธุรกิจในรูปแบบนิติบุคคล จะถือว่าคุณคือพนักงาน และรับรายได้เป็นเงินเดือน ถือเป็นเงินได้พึงประเมินมาตรา 40 (1) ใช้การหักค่าใช้จ่ายไม่เกิน 100,000 บาท
ทั้งนี้ยังสามารถยื่นภาษีได้ 2 ช่วงตามที่กฎหมายระบุไว้นั่นคือ ชำระภาษีครึ่งปี (ภ.ง.ด.94) และชำระภาษีสิ้นปี (ภ.ง.ด.90)
ภาษีเงินได้นิติบุคคล
สำหรับผู้ที่เปิดธุรกิจคลินิกสัตว์เลี้ยงในรูปแบบนิติบุคคลไม่ว่าจะเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด ก็ต้องมีการเสียภาษีตามกฎหมายแบ่งเป็น ยื่น ภ.ง.ด.51 ครึ่งรอบระยะเวลาบัญชี และ ยื่น ภ.ง.ด.50 สิ้นรอบระยะเวลาบัญชี ทั้งนี้การเปิดในรูปแบบนิติบุคคลยังมีเรื่องของภาษีซื้อ-ภาษีขายเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
ภาษีมูลค่าเพิ่ม
หากคุณทำในนามนิติบุคคลแม้รายได้ยังไม่เกิน 1.8 ล้านบาท / ปี ก็สามารถขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มได้ ส่วนการเปิดธุรกิจคลินิกสัตว์เลี้ยงหากมีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาท / ปี ต้องรีบไปดำเนินการจดทะเบียน VAT ภายในระยะเวลาไม่เกิน 30 วัน
ภาษีอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
นอกจากบรรดาภาษีเบื้องต้นที่ระบุมาทั้งหมดแล้ว ยังมีภาษีอื่น ๆ สำหรับคนทำธุรกิจด้านนี้ต้องรู้และจ่ายให้ถูกต้องด้วย ซึ่งขอสรุปรวมให้เห็นภาพ ดังนี้
- ภาษีป้าย แบ่งออกกเป็นป้ายอักษรไทยล้วน, ป้ายอักษรไทยผสมอักษรต่างประเทศ ป้ายอักษรต่างชาติอยู่เหนือกว่าอักษรไทย อัตราภาษีจะแตกต่างกันออกไป
- ภาษีหัก ณ ที่จ่าย ในกรณีที่คุณมีการจ้างพนักงาน หรือจ้างบริการภายนอกต้องมีการหักภาษี ณ ที่จ่าย 3% เพื่อยื่นส่งให้กับกรมสรรพากร
- ภาษีศุลกากร หากธุรกิจของคุณมีการนำเข้าสินค้า วัตถุดิบ หรือสิ่งใดก็ตามจากต่างประเทศต้องมีการเสียภาษีในส่วนนี้ตามอัตราที่ทางกรมศุลกากรกำหนดเอาไว้
ข้อมูลนี้จะช่วยให้คนทำธุรกิจคลินิกสัตว์เลี้ยงเกิดความเข้าใจในเรื่องภาษีมากขึ้น และสามารถทำตามกฎหมายได้อย่างถูกต้อง ไม่มีปัญหาอื่นตามมาให้ปวดหัว บริหารธุรกิจราบรื่น โปร่งใส สบายใจแน่นอน
หากยังไม่แน่ใจสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ fahthongacc ผู้ช่วยทางบัญชีที่จะให้คุณทำธุรกิจคลินิกสัตว์เลี้ยงได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกังวลใจเรื่งภาษี
ที่มา https://chicaccounting.com/